Belotero Revive

BELOTERO REVIVE ฟิลเลอร์งานผิวกระจก ฉีดตรงไหน ต่างจากงานผิวตัวอื่นอย่างไร ?

นวัตกรรมฟิลเลอร์ ตัวใหม่ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน Belotero revive เป็นฟิลเลอร์งานผิวตัวแรกของโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่จะมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของการดูแลสุขภาพผิวให้ฉ่ำวาว ผิวกระจก (Glass Skin) เรียบเนียน อิ่มน้ำ สุขภาพดีจากภายใน ทำให้แต่งหน้าติดง่าย เสริมความมั่นใจ และที่สำคัญเป็นฟิลเลอร์รุ่นแรกและรุ่นเดียวเท่านั้นที่มีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid ร่วมกับ Glycerol ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดูแลผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดีกว่าฟิลเลอร์รุ่นอื่น ๆ และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ในระยะยาวอีกด้วย

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

Belotero Revive คืออะไร ?

เบโลเทโร รีไวฟ์ คือ ฟิลเลอร์ที่ช่วยในเรื่องงานผิวตัวแรกของโลก (The World 1st Skin Quality HA Filler) ที่ผ่านการรับรองจาก USFDA (องค์การอาหารและยาจากสหรัฐอเมริกา) ซึ่งมีส่วนประกอบหลักเฉพาะถึง 2 ชนิดอย่าง กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ที่จะช่วยเติมน้ำให้ผิว และ 
กลีเซอรอล  (Glycerol) ที่เป็นตัวช่วยอุ้มน้ำให้ผิว ทำให้มีประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวเนียนละเอียด รูขุมขนกระชับ ผิวยืดหยุ่น ผิวอิ่มฟู ผิวกระจก ฉ่ำวาว และช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูสุขภาพผิวดีมากขึ้นอย่างเต็มขั้น

ฟิลเลอร์เบโล รีไวฟ์ ต่างจากฟิลเลอร์อื่นอย่างไร ?

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าตัว เบโล รีไวฟ์ เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) และกลีเซอรอล (Glycerol) ซึ่งจะต่างจากฟิลเลอร์รุ่นอื่น ๆ ที่มีส่วนประกอบเป็น Hyaluronic Acid เพียงอย่างเดียว โดยส่วนประกอบหลักทั้ง 2 ชนิดนี้ ก็มีคุณสมบัติที่ช่วยในการฟื้นฟูผิว ดังนี้กลีเซอรอล  (Glycerol) ที่เป็นตัวช่วยอุ้มน้ำให้ผิว ทำให้มีประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวเนียนละเอียด รูขุมขนกระชับ ผิวยืดหยุ่น ผิวอิ่มฟู ผิวกระจก ฉ่ำวาว และช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูสุขภาพผิวดีมากขึ้นอย่างเต็มขั้น

Belotero Revive คืออะไร

1. Hyaluronic Acid

เป็นสารที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ แต่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายของเราจะผลิตกรดไฮยาลูรอนิกได้น้อยและช้าลง ทางการแพทย์จึงได้มีการคิดค้นสังเคราะห์ไฮยาลูรอนขึ้นมาเพื่อทดแทน ซึ่งจะมีคุณสมบัติช่วยเติมน้ำให้กับผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น และมีส่วนในการสังเคราะห์คอลลาเจน ช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวดูโกลว์ เนียนใส ป้องกันการเกิดริ้วรอย และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์

2. Glycerol

มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องการกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผิวอุ้มน้ำ ทำให้ผิวดูฉ่ำน้ำ ฉ่ำวาว ผิวเงา ผิวนุ่มเด้ง ช่วยเพิ่มเกราะป้องกันให้ผิวไม่หมองคล้ำจากแสงแดด เร่งกระบวนการสมานแผล ปกป้องผิวจากสารระคายเคือง และช่วยให้กรดไฮยาลูโรนิกทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย

ดังนั้น เมื่อมีส่วนผสมทั้ง 2 ชนิดนี้ ฟิลเลอร์ Belotero Revive จึงมีคุณสมบัติที่โดดเด่นขึ้นมาในการช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นจากชั้นผิวหนังด้านใน (Dermis) จนถึงชั้นผิวหนังชั้นนอกสุด (The stratum corneum) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการบำรุงผิวล้ำลึกตั้งแต่ภายในจนถึงภายนอกเลยก็ว่าได้

ฟิลเลอร์งานผิว Belotero Revive มีคุณสมบัติเด่นอย่างไร ?

ด้วยส่วนผสมหลักที่ไม่เหมือนฟิลเลอร์ตัวอื่น ฟิลเลอร์งานผิว Belotero Revive ยังเป็นนวัตกรรมการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ Belotero คือ CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ที่จะมีคุณสมบัติที่โดดเด่น 3 ประการ คือ

Belotero Revive ดียังไง

1. Cohesivity

มีความสามารถในการยึดเกาะตัวของเนื้อเจลแบบไร้รอยต่อ ทำให้มีความเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน

2. Elasticity

มีความสามารถในการยืดหยุ่นของเนื้อเจล สามารถคืนตัวได้หากมีแรงมากระทำ ทำให้เนื้อเจลไม่ไหล ไม่ย้อยไปในบริเวณที่ไม่ต้องการ

3. Plasticity

มีความสามารถในการปั้นและขึ้นรูปเป็นทรงของเนื้อเจล ซึ่งจะทำให้ปั้นแต่งให้เป็นทรงในบริเวณที่ต้องการได้

Belotero Revive ดีไหม เป็นอันตรายหรือไม่ ?

การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยในการฟื้นฟูและบำรุงผิวให้ดูดีขึ้น เหมาะกับผู้ที่ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ และมีปัญหาริ้วรอย ผิวไม่กระชับ หลังฉีดจะได้ผลลัพธ์ผิวสุขภาพดีขึ้นสุด และการฉีดฟิลเลอร์ belotero revive มีความปลอดภัยสูง เนื่องจาก Belotero ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องทั้ง อย.ไทย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา รวมทั้งจัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์แบรนด์ชั้นนำที่แพทย์ทั่วโลกยอมรับและมีการใช้กันอย่างแพร่หลายกว่า 50 ประเทศทั่วโลก หลังฉีดสามารถสลายหมด ไม่มีสารตกค้าง และสามารถมั่นใจในผลลัพธ์ที่ดีได้เลยค่ะ

คุณสมบัติตัวเบโล รีไวฟ์ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

สำหรับ Belotero Revive filler ซึ่งเป็นฟิลเลอร์งานผิวที่จะช่วยยกระดับผิวใสให้ดูดีขึ้นถึง 4 มิติ (4D) อย่างเห็นได้ชัด ได้แก่

  1. Skin Hydration ช่วยให้ผิวมีความนุ่มชุ่มชื้น กักเก็บความชุ่มชื้นจากชั้นผิวชั้นใน จนถึงชั้นผิวชั้นนอกสุด ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาวอยู่เสมอ
  2. Skin Glow ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส เนียนเด้ง ได้ผิวกระจกแบบสาวเกาหลี และช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ พร้อมป้องกันและฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดดและมลภาวะ
  3. Skin Firmness ช่วยให้ผิวแน่น เฟิร์ม ดูกระชับ เรียบเนียน รูขุมขนกระชับขึ้น เติมหลุมสิวให้ตื้นขึ้น และช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ ให้กับผิว
  4. Skin Elasticity ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้ผิวดูเด้ง อิ่มฟู และช่วยลดความมันบนใบหน้า

ฟิลเลอร์ Belotero Revive ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?

Belotero Revive หรือฟิลเลอร์กล่องสีเขียว เหมาะสำหรับการฉีดผิวชั้นตื้น หรือชั้นหนังแท้ บริเวณผิวที่มีริ้วรอย ผิวขาดน้ำ มีรูขุมขนกว้าง และผิวไม่กระชับ ได้แก่ 

  • ผิวหน้า บริเวณแก้ม กรอบหน้า เพื่อทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ผิวเรียบเนียน และรูขุมขนกระชับขึ้น
  • รอบดวงตา จะช่วยให้ใต้ตาชุ่มชื้นขึ้น และลดริ้วรอยรอบดวงตาให้เนียนสวย 
  • ปาก เพื่อเพิ่มความอวบอิ่มให้ปากอิ่มฟู และฉีดเพื่อลดร่องมุมปาก
  • ลำคอ เพื่อลดร่อยเหี่ยวย่น ผิวหย่อนคล้อย ผิวแห้งกร้าน ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว
  • หลังมือ เพื่อปรับสภาพผิว ช่วยให้มือที่เหี่ยวกลับมานุ่มชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

ฟิลเลอร์ Belotero Revive เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ
  • ผู้ที่ผิวขาดความยืดหยุ่น 
  • ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง
  • ผู้ที่ต้องการมีผิวสุขภาพดี ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว ผิวกระจก
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยหรือร่องตื้นบนใบหน้า
  • ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว ต้องการเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น (หลุมสิวไม่เกินขนาด 4-5 มม.)
  • ผู้ที่ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด
  • ผู้ที่มีปัญหาแต่งหน้าไม่ติด
  • ผู้ที่ต้องการชะลอการเสื่อมโทรมของผิวจากอายุที่มากขึ้น

ฟิลเลอร์เบโลเทโร รีไวฟ์ ฉีดครั้งละกี่ CC ?

การฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive แพทย์จะเป็นผู้ประเมินความรุนแรงของปัญหาของคนไข้แต่ละเคสว่าควรฉีดกี่ cc โดยปกติทั่วไปจะฉีด 1 ครั้ง 2-3 cc หากเป็นเคสที่มีปัญหาผิวที่รุนแรงหรือผู้ที่มีอายุมากขึ้นจะฉีด 3 ครั้ง ครั้งละ 2 cc เพื่อให้ผิวเรียบเนียน และดูชุ่มชื้นอิ่มน้ำมากยิ่งขึ้น

Belotero Revive กับ Rejuran ต่างกันอย่างไร เลือกอะไรดี ?

Rejuran เป็นอีกหนึ่งตัวยาที่นิยมอย่างมากในเกาหลี ซึ่งจะมีส่วนผสมหลักจาก PN (Polynucleotide) ที่สกัดจาก DNA Salmon และเป็น DNA ที่มีความคล้ายคลึงกับ DNA ของมนุษย์มากที่สุด ซึ่งจะช่วยซ่อมแซมผิวในระดับลึก และแก้ปัญหาผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวเนียนใสดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยที่ Rejuran และ เบโลเทโร รีไวฟ์ จะมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกันในเรื่องของการทำให้ผิวฉ่ำวาว ปรับผิวให้กระจ่างใส และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน 

ในส่วนของความแตกต่างกันนั้น Belotero Revive จะโดดเด่นในเรื่องของการกักเก็บความชุ่มชื้นได้สูงกว่า เนื่องจากมีส่วนประกอบของ Glycerol ที่ช่วยเรื่องการอุ้มน้ำ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวขาดความชุ่มชื้น ใบหน้าหมองคล้ำ มีริ้วรอยเหี่ยวย่น และรูขุมขนกว้างได้ดี ส่วน Rejuran จะมีความโดดเด่นในเรื่องการซ่อมแซมเซลล์ และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่า ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ฟื้นฟูหลุมสิว ซ่อมแซมเซลล์ผิวจากภายในทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ ทั้งสองหัตถการก็สามารถฉีดร่วมกันได้ เพื่อทำให้ได้ผลลัพธ์ผิวที่ดูดี อิ่มน้ำ ผิวกระชับ ดูเรียบเนียน และได้ผิวกระจกที่เล่นแสงได้ดีมากขึ้น

เบโลเทโร รีไวฟ์ vs Rejuran

ก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ Belotero revive ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์เบโลเทโร่ และการดูแลตัวเองหลังฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถปฏิบัติตัวได้ดังนี้

ก่อนฉีดฟิลเลอร์เบโลเทโร่

  • งดยาที่ส่งผลให้เลือดหยุดไหลช้า เช่น แอสไพริน, NSAIDs, ibuprofen, diclofenac, ponstan ก่อนฉีด 1 สัปดาห์
  • งดรับประทานวิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E ก่อนฉีดประมาณ 1 สัปดาห์
  • งดเลเซอร์หน้า นวดหน้า ดึง โกน หรือแวกซ์ขนบริเวณที่จะฉีด อย่างน้อย 3 วัน
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ออกกำลังกายหนัก ๆ หรืออบซาวน่า ก่อนฉีด 24 ชั่วโมง
  • หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดทุกครั้ง

หลังฉีดฟิลเลอร์เบโลเทโร่

  • งดจับ แกะ เกา กด นวดบริเวณที่ฉีด
  • งดการแต่งหน้า อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • ดื่มน้ำให้มาก ๆ ประมาณ 1.5-2 ลิตรต่อวัน
  • ในช่วง 2-3 คืนแรกหลังฉีด ควรนอนหมอนสูงกว่าระดับหน้าอก และงดนอนตะแคง
  • งดรับประทานอาหารหมักดอง อาหารรสจัด อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ และอาหารทะเลในบางรายที่แพ้ ประมาณ 14 วัน
  • หลีกเลี่ยงแสงแดด หรืออากาศที่ร้อนจัด
  • งดการทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด ประมาณ 1 เดือน
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ 1 สัปดาห์
  • งดออกกำลังกายหนัก ๆ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง

Belotero Revive ราคาเท่าไหร่ ?

เป็นหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยว่า การฉีดฟิลเลอร์งานผิว Belotero Revive ราคาเท่าไร ? สำหรับที่ All About Clinic  จะเริ่มต้นที่ราคา 15990 บาท/ 1 CC และ 25990 บาท/ 2 CC โดยคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ตามความเหมาะสมของปัญหาผิวในแต่ละเคส ทั้งนี้หากคุณสนใจยังสามารถติดตามโปรโมชั่นของคลินิกเราได้ตลอดทั้งเดือนที่ : รวมโปรโมชั่น All About Clinic  หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง inbox ของคลินิก และ Line @AACCENTER  ค่ะ

คำถามที่พบบ่อย

1. หลังฉีด Belotero Revive มีผลข้างเคียงไหม ?

ผลข้างเคียงหลังฉีด Belotero Revive อาจมีตุ่มนูนเล็ก ๆ หรือมีอาการบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปได้เองภายใน 2-3 วัน แต่สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง หรือช้ำง่าย อาจจะมีรอยเขียวช้ำ หรือคันในบริเวณที่ฉีดได้ แต่ก็จะหายไปได้เองภายใน 3-4 วันค่ะ

2. หลังฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน ?

โดยทั่วไปหลังฉีด ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 7-9 เดือน โดยอ้างอิงจากผลการศึกษาของ BELOVE study1 พบว่าหลังฉีดจะแสดงผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจน ดังนี้

  • Skin Hydration ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและดูฉ่ำวาว ไม่แห้งกร้าน ยาวนานถึง 9 เดือน
  • Skin Glow ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสใส เปล่งประกาย จุดด่างดำลดลง ยาวนานถึง 9 เดือน
  • Skin Elasticity ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและนุ่มฟูดีขึ้น ยาวนานถึง 7 เดือน
  • Skin Firmness ช่วยให้ผิวกระชับมาก รูขุมขนเล็กลง ยาวนานถึง 7 เดือน

3. เบโลเทโร รีไวฟ์ ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?

หลังการฉีด Belotero Revive จะเริ่มเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ฉีดครั้งแรก โดยที่ผิวจะดูอิ่มฟู ชุ่มชื้น และกระชับมากขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ และถึงแม้จะฉีดแค่ครั้งเดียวก็อยู่ได้นานประมาณ 9 เดือน แต่หากอยากให้ผิวดูสุขภาพดีอย่างสม่ำเสมอ ผิวไม่ดรอปลง แนะนำให้ฉีดอย่างต่อเนื่อง 3-4 ครั้ง ทุก 1 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นและให้ผิวฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ หลังจากนั้นหากผิวดูสุขภาพดีแล้วสามารถเว้นระยะการฉีดตามอายุของฟิลเลอร์เป็นทุก ๆ 6-9 เดือนได้ค่ะ

4. ฉีดฟิลเลอร์ Belotero revive ร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?

สามารถฉีดร่วมกับหัตถการอื่นได้ โดยแนะนำให้ทำควบคู่ไปกับการทำหัตถการเลเซอร์ เพื่อจะช่วยให้ผิวได้รับการซ่อมแซมและฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถฉีดร่วมกับ โบท็อก ร้อยไหม รีจูรัน ได้เช่นกัน โดยการทำร่วมกับรีจูรันจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ส่งเสริมกัน ผิวดูฉ่ำเงา และอิ่มน้ำยิ่งขึ้น แต่หากต้องการฉีดแยกก็จะทำให้ได้ผิวที่ดูสุขภาพได้เช่นกันค่ะ ทั้งนี้ก็ควรได้รับการประเมินปัญหาของใบหน้าจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเรียงลำดับการรักษาที่ถูกต้องและตรงจุดมากที่สุดด้วยนะคะ

5. ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์งานผิว ?

การฉีดฟิลเลอร์งานผิวเบโลเทโร รีไวฟ์ มีข้อห้ามและข้อควรระวังที่ไม่เหมาะจะฉีดให้กับบุคคล ดังต่อไปนี้

  • ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
  • หญิงที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้สารฟิลเลอร์ หรือแพ้ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ เช่น hyaluronate หรือ glycerol
  • ผู้ที่มีผิวหนังอักเสบหรือมีอาการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา
  • ผู้ที่มีแนวโน้มจะเกิดแผลเป็นนูน (hypertrophic scar) หรือคีลอยด์ (keloid)
  • ผู้ที่มีเลือดออกแล้วหยุดยาก หรือกำลังรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน (ASA), ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (Warfarin)
  • ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเริม หรืองูสวัด