จมูกทะลุ

เช็คด่วน 8 อาการเสี่ยงจมูกทะลุหลังเสริม พร้อมแนะนำข้อควรระวังเบื้องต้น

ต้องยอมรับว่าหลังการทำศัลยกรรม เสริมจมูก บางเคสก็จะได้ผลลัพธ์ดี สวยโด่งเป็นที่น่าพึงพอใจ แต่ก็อาจจะมีบางเคสที่สามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจมูกเบี้ยวหรือเอียง เนื่องจากซิลิโคนเคลื่อนที่ จมูกอักเสบ ปลายจมูกบาง เสี่ยงทำให้จมูกทะลุ เนื่องจากการเสริมจมูกที่โด่งมากและฝืนเนื้อจมูกตัวเองจนเกินไป ซึ่งหลายท่านก็คงกังวลกลัวที่จะเกิดปัญหาเหล่านี้กันใช่ไหมคะ วันนี้เราจึงได้นำสัญญาณเตือนอาการเสี่ยงก่อน จมูกทะลุ มาฝากทุกท่าน เพื่อที่จะได้รีบแก้ไขและควรระวังก่อนที่จมูกพังจนถึงขั้นเสียโฉมได้ ส่วนจะมีอาการอย่างไรบ้าง รีบตามไปเช็คด่วน ๆ กันเลยค่ะ

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

8 อาการเสี่ยงจมูกทะลุหลังศัลยกรรมเสริมจมูก มีอะไรบ้าง ?

การเกิดจมูกทะลุมักเกิดขึ้นที่บริเวณสันจมูกและปลายจมูก โดยจะมีอาการดังนี้

1. ลูบบริเวณปลายจมูกแล้วรู้สึกเสียว ๆ

เป็นสัญญาณเตือนจมูกทะลุที่สามารถเช็คได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ซึ่งการรู้สึกเสียวแปลบตรงปลายจมูก เกิดจากการที่ ซิลิโคน จมูก ดันออกมาอยู่ใกล้บริเวณผิวหนังมากเกินไป เป็นสาเหตุทำให้ปลายจมูกบางและเสี่ยงจมูกใกล้ทะลุแล้วนั่นเอง

2. ปลายจมูกสะท้อนแสง

อาการนี้สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ เช่นกัน โดยดูที่บริเวณปลายจมูกของตัวเองว่าสะท้อนแสง หรือมันวาวมากกว่าตำแหน่งอื่นบนใบหน้าหรือไม่ หากมีอาการเหล่านี้แสดงว่าเนื้อปลายจมูกเริ่มจะบางลงแล้ว และมีโอกาสที่ซิลิโคนจะทะลุออกมาได้

3. รูปร่างซิลิโคนเปลี่ยนแปลง

ทรงจมูกหรือซิลิโคนเริ่มเปลี่ยนรูปร่าง ไม่เป็นรูปทรงเดิม เช่น จมูกเบี้ยว จมูกเอียง หรือจมูกเริ่มยาวและงุ้มผิดปกติ เกิดจากการที่ซิลิโคนเคลื่อนตัวลงมาที่บริเวณปลายจมูก และบางเคสที่เสริมจมูกมานานแล้ว อาจจะทำให้เนื้อเยื่อหุ้มบริเวณซิลิโคนมีความหนาและแข็ง จนเกิดการบีบรัดตัวมากขึ้นทำให้ซิลิโคนผิดรูป แล้วเคลื่อนลงมาทำให้จมูกบาง เสี่ยงทะลุในอนาคต

4. ผิวบริเวณจมูกเริ่มเปลี่ยนสี

สีผิวบริเวณจมูกมีความแตกต่างจากบริเวณอื่น เช่น เริ่มมีสีแดง สีดำคล้ำ หรือสีขาวซีด มีสาเหตุมากจากการที่ผิวหนังจมูกของเราเริ่มบางลง เม็ดสีก็จะจางลงด้วย

5. มีสิวหัวช้างขึ้นบริเวณปลายจมูก

สิวสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ถ้าเป็นสิวหัวช้างขนาดใหญ่บริเวณปลายจมูก เป็นสิ่งที่ต้องคอยระวังเป็นพิเศษ หรือถ้ารักษา ทายา กินยา แล้วก็ยังไม่หาย อาจจะเกิดจากการอักเสบและอาจลุกลามทำให้เนื้อเยื่อที่หุ้มซิลิโคนเสริมจมูกอักเสบและติดเชื้อด้วย รวมถึงส่งผลให้ผิวหนังจมูกบาง เสี่ยงซิลิโคนทะลุได้

6. จมูกเริ่มมีร่องหรือรอยบุ๋ม

หากเสริมจมูกมานานแล้ว สังเกตเห็นว่าจมูกมีร่อง หรือมีรอยบุ๋มต่าง ๆ เกิดขึ้นบนจมูก เนื่องจากการที่ผิวหนังบริเวณปลายจมูกด้านบนลงมายึดติดกับขอบซิลิโคนจนทำให้เกิดเป็นผังพืด ส่งผลให้ผิวส่วนนั้นรัดกับซิลิโคน จึงทำให้เห็นขอบซิลิโคน เห็นร่องและรอยบุ๋มบนจมูกชัดเจน

7. เจ็บบริเวณปลายจมูกไม่หาย

หากรู้สึกมีอาการเจ็บโดยเฉพาะบริเวณปลายจมูกมาเป็นระยะเวลานาน และอาจจะเจ็บมากขึ้น หรือบางกรณีอาจจะมีน้ำขุ่น ๆ ใส ๆ หรือหนองไหลออกมาด้วย ซึ่งเกิดจากการอักเสบและติดเชื้อข้างในจมูก เป็นสัญญาณเสี่ยงที่จะส่งผลให้จมูกทะลุได้นั่นเอง

8. แท่งซิลิโคนโผล่ออกมา

เป็นอาการที่เห็นได้ชัดเจนเลยว่า ซิลิโคนจะทะลุออกมาแล้ว เนื่องจากปลายจมูกของเราบางลงจนทำให้เห็นว่ามีแท่งซิลิโคนโผล่ทะลุออกมา หรือเห็นเป็นสีขาว ๆ ห้ามแตะ ห้ามจับ หรือดึงซิลิโคนออกมาเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อและแก้ไขได้ยากมากกว่าเดิมค่ะ

วิธีการรักษาเมื่อ จมูกทะลุ

หากท่านเริ่มมีสัญญาณเตือน จมูกทะลุ ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น ขอแนะนำว่าให้รีบเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้อง ไม่ควรปล่อยไว้นาน เพราะอาจจะเกิดอันตรายมากกว่าเดิมจนทำให้เสียโฉมได้ ซึ่งแพทย์จะมีวิธีการรักษาดังต่อไปนี้

ตัดปีกจมูกชมพู่
  • หากยังอยู่ในช่วงสัญญาณเตือนที่ไม่ร้ายแรงมาก หรืออยู่ในช่วง ปลายจมูกแดง ยังไม่ทะลุ แพทย์จะทำการแก้ไขแล้วใส่ซิลิโคนเข้าไปใหม่ ซึ่งจะมีการปรับแก้ไขทรงจมูกให้เหมาะสมกับเนื้อจมูกของคนไข้แต่ละเคสด้วย
  • หากมีปัญหาถึงขั้นจมูกจะทะลุแล้ว แพทย์จะทำการผ่าตัดนำซิลิโคนเดิมออก แล้วหลังจากนั้นจะให้คนไข้ทำการพักฟื้น เพื่อปรับสภาพของเนื้อจมูกเป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือนก่อน เนื่องจากเนื้อของจมูกยังไม่แข็งแรงมากพอ จึงไม่สามารถทำการเสริมซิลิโคนเข้าไปได้ทันที
  • เมื่อทำการพักฟื้นจมูกแล้ว แพทย์จะทำการผ่าตัดแก้ไขจมูก โดยการนำ กระดูกอ่อนหลังหู หรือเนื้อเยื่อมารองบริเวณปลายจมูก เพื่อเพิ่มความหนาให้กับเนื้อจมูก และเสริมรูปทรงที่พอเหมาะกับจมูกของคนไข้ เพื่อลดความเสี่ยงในการทะลุอีกครั้ง

ข้อควรระวังอื่น ๆ ก่อนการทำศัลยกรรมจมูก

1. สิ่งแรกที่ควรระวังและควรให้ความสำคัญ คือการเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่จะทำการเสริมจมูก โดยต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย และแพทย์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อเป็นการป้องกันการใช้ซิลิโคนปลอม จนทำให้จมูกพัง หรือมีปัญหาอื่น ๆ ตามมา

2. ควรที่จะเลือกรูปทรงจมูกให้เหมาะสมกับเนื้อจมูกและทรงที่รับกับรูปหน้าของตัวเอง ไม่ควรที่จะเสริมโด่งฝืนเนื้อจนเกินไป เพื่อป้องกันจมูกเสี่ยงทะลุในอนาคต

3.  กรณีที่มีเนื้อจมูกน้อย ควรรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อตัวเอง หรือเนื้อเยื่อเทียม เพื่อป้องกันการทะลุเช่นกัน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับอาการเสี่ยงที่เรานำมาให้กับทุกท่านได้ทราบ ซึ่งท่านสามารถสังเกตจมูกของตัวเองได้ และหากมีอาการตามที่กล่าวมาก็ควรที่จะรับการแก้ไขโดยด่วน หรือท่านใดที่ทำจมูกมาแล้วยังไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ ที่ All About Clinic เราก็มีบริการแก้จมูก เสริมจมูก ปลูกผม ทำตาสองชั้น และดูแลความงามด้านต่าง ๆ นำทีมโดยคุณหมอพอล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง ที่จะช่วยให้คำแนะนำและออกแบบรูปทรงจมูกให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคส รับประกันได้เลยว่าผลลัพธ์ดีต่อใจแน่นอนค่ะ ซึ่งท่านสามารถปรึกษาคุณหมอได้ด้วยตัวเองที่ Line @AACCENTER